วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Apple โดนซะแล้ว


จากข้อมูลที่สื่อต่างประเทศรายงานกล่าวว่า Apple โดนแฮคเกอร์โจมตีในลักษณะที่คล้ายกับที่ Facebook ผ่านช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ Java ที่เป็นปลั๊กอินในเว็บเบราวเซอร์ผ่านทางการเข้าชมเว็บไซต์สำหรับนักพัฒนาเว็บ ซึ่งการโจมตีดังกล่าวมาในลักษณะของมัลแวร์ โดย Apple ค้นพบจากเครื่อง Mac ในบริษัทแห่งหนึ่ง  แต่ Apple ไม่ได้เปิดเผยว่ามีข้อมูลใดถูกขโมยไปบ้าง
หลังจากค้นพบมัลแวร์ในเครื่อง Mac ทาง Apple ได้ออกอัพเดท Java for OS X 2013-001 1.0 เพื่ออุดรอยรั่วในซอฟต์แวร์ Java และกำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อควานหาต้นตอของการแฮคครั้งนี้ต่อไป โดยมีการเชื่อมโยงไปถึงกองทัพจีนด้วย ซึ่งสื่อต่างประเทศได้ระบุว่ากลุ่มที่ทำการแฮคเข้า Facebook และ Twitter อาจมาจากสถานที่แห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ มีเป้าหมายหลักอยู่ที่บริษัทสัญญาติอเมริกัน แต่แน่นอนว่าทางกองทัพจีนได้ออกมาปฏิเสธต่อคำกล่าวหาดังกล่าวแล้ว
โดยเรื่องดังกล่าวนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์จากกลุ่มแฮคเกอร์ จึงได้มีคำสั่งให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในระบบไซเบอร์ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจนำไปสู่การก่อการร้าย

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เฟอร์บี้คืนชีพ ดารามีส่วนหรือไม่ !!



 




กลายเป็นของเล่นอินเทรนด์ยอดฮิตอันดับหนึ่งไปแล้วสำหรับตุ๊กตา “เฟอร์บี้” หลังเหล่าดาราต่างแห่ร่วมโพสต์รูปภาพคู่กับของเล่นชิ้นใหม่ล่าสุดผ่านโซ เชี่ยลเน็ตเวิร์ก จนทำให้ของเล่นชิ้นนี้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งที่จริงๆ แล้วตุ๊กตา “เฟอร์บี้” เคยเป็นที่นิยมมาแล้วตั้งแต่ปี 2548 และได้หายไปพร้อมกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นด้วยการทำตามกระแส แต่ที่แน่ๆ การกลับมาครั้งนี้ของเจ้าของเล่นชิ้นนี้มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ที่สามารถพูด ได้ ให้อาหารได้ และสามารถแสดงความรู้สึกได้ โดยการเล่นผ่านแอพพลิเคชั่นในไอโฟน บวกกับความน่ารักจนทำให้เป็นที่นิยมไปได้ไม่ยากนัก ซึ่งสกู๊ปพิเศษ ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้าเลย ขอจับกระแสสอบถามเหล่าซุป’ตาร์ คนดังคิดอย่างไรกลับการฟื้นคืนชีพอีกครั้ง เหล่าดารามีส่วนในการสร้างกระแสหรือไม่ พร้อมคำแนะนำดีๆหากใครที่ชอบเกาะกระแส ดาราแนะนำอย่างไร
“เต๋อ” ฉันทวิชช์ ธนะเสวี
“ผมเพิ่งรู้จักเฟอร์บี้ไม่นานไม่รู้ว่าคืออะไรแต่ได้ยินคนพูดบ่อย ที่รู้จักเพราะมีน้องคนหนึ่งเอามาเลยได้เห็นว่าเป็นตุ๊กตาที่พูดได้ดูน่ารัก อยากมีไว้มั้ยผมว่ามันแล้วแต่คนครับ แต่สำหรับผมขอพูดกับมนุษย์ดีกว่าเพราะสามารถโต้ตอบเราได้ดีกว่าครับ ผมว่าการเล่นเฟอร์บี้เป็นรสนิยมครับใครที่ชอบ ชีวิตมีเฟอร์บี้แล้วมีความสุขก็ดี แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้พื้นฐานว่าต้องไม่ลำบากกับชีวิตเรา คือถ้าเราไม่มีเงินแล้วต้องพยายามเก็บเงินหรือขอยืมเงินคนอื่นมาซื้อผมคิด ว่าไม่จำเป็นต้องขนาดนั้นก็ได้ สำหรับเรื่องที่เฟอร์บี้กลับมาฮิตอีกครั้งแน่นอนครับ ดาราหรือคนมีชื่อเสียงก็มีส่วนเพราะเป็นอาชีพที่คนจับตามองอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาทำอะไรคนที่ชอบดาราคนนั้นก็อยากจะทำเหมือนกันก็อาจเป็นที่มา ของกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นสำหรับคนที่ทำตามกระแสผมอยากบอกว่าจริงๆ แล้วคนเรามีเสน่ห์ในแบบของเรา บางครั้งการที่เราพยายามจะเป็นคนอื่นมันทำให้เสน่ห์ของเราหายไป ผมคิดว่าเอาดารามาเป็นคติในการดำเนินชีวิตบางอย่างดีกว่าเอามาเป็นทุกอย่าง ของเราครับ”
“วุ้นเส้น” วิริฒิพา แย้มนาม
“ไม่ได้เล่นค่ะ แต่ก็ดีใจด้วยที่มีของเล่นใหม่เกิดขึ้นมาค่ะแล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวไม่ได้ชอบเล่นตุ๊กตาขนาดนั้น ส่วนที่เฟอร์บี้กลับมาดังอีกครั้งดารามีส่วนมั้ยวุ้นคิดว่ามีนะเพราะบางคน โพสต์อินสตาแกรมเล่นกันบางคนก็พูดกันปากต่อปากก็ทำให้เป็นกระแสได้ วุ้นคิดว่าการที่ดาราทำให้เกิดกระแสอินเทรนด์ต่างๆ ขึ้นมากมายก็เป็นเรื่องที่ดีนะไม่งั้นใครจะเป็นคนสร้าง เพราะว่าเราเหมือนเป็นสื่อกลางอยู่แล้ว และทำให้คนเห็นว่าตอนนี้เรากำลังสนใจในเรื่องของอะไรกันอยู่ เพราะอย่างนัก เรียน-นักศึกษาเขาจะไปสื่อทางไหน มันเลยทำให้ดารากลายเป็นคนนำเทรนด์ ส่วนดาราคนไหนนำเทรนด์ในทางที่ผิดคนนั้นก็ไม่สมควรอยู่ในวงการนะคะและมัน ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนด้วยว่าจะเลือกอะไร ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่ดาราเลือกจะเป็นเรื่องที่ดีเสมอไปถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ เหมาะกับเราก็ไม่จำเป็นต้องเลือกก็ได้ทำในสิ่งที่เหมาะกับตัวเองดีกว่า”
“แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์
“ไม่ได้เล่นค่ะ การที่กระแสเฟอร์บี้กลับมาดังคิดว่าเป็นเพราะความชอบของแต่ละคนมากกว่า การที่กระแสฮิตต่างๆ กลับมาดังดารามีส่วนไหม แพนคิดว่า เราก็เป็นคนเบื้องหน้าอยู่แล้วเราก็น่าจะเป็นแบบอย่างให้กับหลายๆ คนที่ติดตามเราอยู่ ซึ่งแพนคิดว่าอยากให้ทุกคนเลือกทำในสิ่งที่เราชอบ และเหมาะกับเราดีกว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความชอบ และการตัดสินใจของเราค่ะ”

“หมาก” ปริญ สุภารัตน์
“เล่นครับ มีสีขาว แต่เล่น 5 นาที แล้วเลิกเลย คือผมซื้อตุ๊กตาเฟอร์บี้มานานมากตั้งแต่ไปที่ญี่ปุ่นซึ่งเมืองไทยยังไม่ฮิต เลย ผมรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ตอนนี้ผมคิดว่าเขาฮิตจริงๆ นะผมก็ว่าเล่นกันได้ครับแต่ขอให้มีสาระนิดหนึ่ง อยู่ในขอบเขตอย่าไปบ้าอะไรเกินไปอย่าใช้ค่าใช้จ่ายที่มันเกินตัวเกินไปแล้ว กัน เฟอร์บี้เดี๋ยวนี้ก็มีแต่งสี พรอพเครื่องประดับอะไรเยอะแยะ ผมว่าดาราก็มีส่วนนะครับในการที่ทำให้เกิดกระแสต่างๆ ดาราบางคนก็บ้าเฟอร์บี้เหมือนกันครับ (หัวเราะ) ผมก็อยากแนะนำว่าถ้ามีโอกาสเล่นก็เล่นได้ แต่อย่าให้มันเกินตัว และอย่าให้โดนหลอกครับ”
“โก๊ะตี๋” เจริญพร อ่อนละม้าย
“ผมไม่ได้เล่นครับ แต่ผมว่ามันก็ดีเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องขี้ ไม่ต้องเรื่องมาก เลี้ยงในไอโฟน มันดีสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับสัตว์เลี้ยง ส่วนที่เฟอร์บี้กลับมาดังอีกครั้งผมก็ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะดาราหรือเปล่า แต่ผมว่ามันก็เหมือนทามาก๊อต มันมาเดี๋ยวมันก็ไปมันไม่ได้ดังไป 10-20 ปีหรอก ที่มันกลับมาดังได้เพราะเมื่อก่อนไม่มีแอพพลิเคชั่นในไอโฟนก็เลี้ยงตามปกติ แต่เดี๋ยวนี้พอมันมีแอพในไอโฟนสามารถให้อาหารได้ สามารถบ่มเพาะอุปนิสัยของเขาได้มันเป็นนวัตกรรมที่มาใหม่แน่นอนว่าพอคนเห็น ก็เห่อ ซึ่งเป็นวัฏจักรของโลก การที่มันกลับมาดังหรือการที่เกิดเทรนด์ต่างๆ บางครั้งอาจไม่ได้เป็นเพราะกระแสดารา เพราะดาราผิดก็มีเยอะมันเป็นสไตล์ของเขา อาจมีบ้างที่ทำตามเดี๋ยวผมจะเอาอีกอย่างมาเล่นให้คนฮิตตาม “ลูกข่าง”คนที่ทำตามกระแสผมว่าเป็นสามัญสำนึกของเขาว่าเขาจะอยากเลียนแบบ หรือไม่ เป็นสิทธิ์ของเขาเพราะเขามีเงิน มันก็ไม่ผิด”
“ชิน” ชินวุฒ อินทรคูสิน
“ผมไม่เล่นครับเชื่อว่าอีก 3 เดือน กระแสก็คงหมดแล้วครับ อย่างน้ำชาก็ชวนผมว่า ซื้อมั้ยแต่พอเขาซื้อมา 2 ตัว เล่นไหมไม่เล่นเลยครับผมเลยไม่ซื้อดีกว่า ผมว่าการที่เฟอร์บี้กลับมาดังอีกครั้งดารามีส่วนในการสร้างกระแสแน่นอนครับ เพราะเวลาเขาจับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด บางคนพอเล่นอันนี้แล้วมันน่ารักเลยทำให้คนอยากที่จะเล่นตามด้วย สำหรับคนที่ซื้อมาแล้วถ้าเล่นแล้วสนุกก็เล่นกับมันไปเถอะเพราะมันเป็นของ เล่น คือให้เราสนุกกับมัน แต่ถ้าซื้อเพราะตามกระแสแล้วไม่ได้เล่นกับมันก็อย่าซื้อเลยดีกว่าครับ”
“โม” อมีนา พินิจ
“เล่นบ้างค่ะ ตามกระแสเล็กน้อย คิดว่าเป็นของสะสมน่ารักๆ ดีกว่า มีสีฟ้าชมพูค่ะมีตัวเดียวพอแล้ว ที่ซื้อเพราะกระแสเนอะแล้วอีกอย่างมันก็น่ารักดีค่ะ ที่เฟอร์บี้กลับมาดังดารามีส่วนมั้ยโมคิดว่าดีแล้วค่ะอีกอย่างมันเป็นของ เล่นตามยุคตามสมัยอนาคตอาจมีอย่างอื่นอีกก็ได้ใครจะไปรู้ คือเราสามารถทำตามเทรนด์ได้แต่ก็ต้องดูผลลัพธ์ที่เกิดจากมันด้วยว่าเรามีไว้ เพื่ออะไร ถ้าตามกระแสก็ไม่ต้องมีเยอะมากก็ได้แค่ตัวสองตัวก็พอแล้ว”

“โบ” ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์
“เล่นเฟอร์บี้ค่ะ เป็นสีเหลือง หูสีฟ้า ชื่อจุ๊บแจง ที่เราเล่นเพราะน้องสาวบอกว่าพี่โบถ้าไม่มีไม่ได้นะไม่งั้นจะเป็นคนที่ตกเท รนด์ต้องมีๆ เราเลยได้รับความกดดันจากน้องสาวค่ะแล้วอีกอย่างหนึ่งตั้งแต่ตอน ป.5 เฟอร์บี้มันเคยฮิตไปแล้วครั้งหนึ่งตอนนั้นเราอยากมีมากแต่ว่ามันฮิตช่วงใกล้ เคียงกับทามาก๊อต จำได้ว่าเคยขอคุณแม่ว่าอยากเล่น แต่คุณแม่บอกว่าซื้อทามาก๊อตให้แล้วตั้ง 5-6 ตัว แล้วจะเอาอะไรอีกตอนนี้เลยคิดว่าจะต้องมีเฟอร์บี้กับเขาสักทีค่ะ ที่มันกลับมาฮิตอีกครั้งดารามีส่วนมั้ยโบคิดว่าส่วนหนึ่งค่ะ เพราะตัวของมันเองก็มีความน่าสนใจของมันอยู่แล้วด้วยเมื่อสองสิ่งมาประจบกัน มันเลยทำให้กลายเป็นที่ฮิตมาก จริงๆ โบก็ไม่ค่อยสนับสนุนอะไรสำหรับคนที่ซื้อตามกระแสอยู่แล้ว โบอยากให้ถามตัวเองดีกว่าค่ะว่าชอบจริงๆหรือเปล่า แล้วตัวเองอยากได้จริงๆ หรือเปล่า ถ้าเราคิดว่าไม่ได้ตามกระแสเราซื้อมาแล้วเล่นจริงแท้แน่นอน เมื่อเราได้มาก็จะมีความสุขก็ซื้อ แต่ถ้าซื้อมาแค่จะถ่ายรูปลงอินสตาแกรมโบก็คิดว่าเงินที่ใช้ไปน่าจะเอาไปใช้ ประโยชน์ได้มากกว่านี้ค่ะ”
ฟลุ๊ค-จิระ ด่านบวรเกียรติ (C-Quint)
จริงๆ แล้วเฟอร์บี้มันมีมานานแล้วนะ 8-9 ปีได้ แต่ที่ไม่ฮิตคงเพราะรุ่นก่อนหน้านี้ไม่มีโปรแกรมที่พูดภาษาได้ พอสมัยนี้ปรับปรุงตุ๊กตาใหม่ให้พูดภาษาได้ทำให้มีความเข้าใจ ใช้ชีวิตร่วมกับคนได้จึงทำให้กับมาฮิตอีกครั้ง และอีกอย่างผมว่าสีสันของเฟอร์บี้ก็เป็นที่ดึงดูดให้คนสนใจ โดยเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิงที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ ในความเห็นส่วนตัวของผมคิดว่าเหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว มันช่วยแก้เหงาได้ดีนะ ถ้าถามว่าดารามีส่วนไหม ผมคิดว่าดารามีอิทธิพลทุกเรื่องครับไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น พฤติกรรม หรือเรื่องอื่นๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ฉะนั้นหน้าที่ของดารา หรือคนที่อยู่ในสื่อต้องทำตัวให้ดี เพราะเราเป็นคนของสังคม ไม่ว่าเราจะทำอะไรย่อมเป็นที่จับตามองของคนทั่วไปครับ”
“พิชญ์” พิชญ์ กาไชย (C-Quint)
ผมคิดว่าที่เฟอร์บี้กับมาฮิตอีกครั้งอาจจะเป็นเพราะ รุ่นของตุ๊กตาที่เปลี่ยนไป คือทันสมัย และเข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับคนได้มากขึ้น สามารถเป็นเพื่อนกับเราในเวลาเหงาได้ ด้วยขนาดตัวที่เล็กพกไปไหนมาไหนด้วยได้ ทำให้ดึงดูดให้คนหันมาเล่นกันครับ ผมว่าดารามีอิทธิพลกับกระแสเฟอร์บี้แน่นอนครับ เพราะเวลาที่ดาราทำอะไรทุกอย่างก็อยู่ในสายตาของประชาชนตลอด อย่างเช่นเสื้อผ้าที่ดาราใส่วันนี้แล้วมันฮิต คนทั่วไปก็หาซื้อมาใส่เพื่อให้เหมือนกับดาราที่ตัวเองชอบ ฉะนั้นดารามีอิทธิพลทุกอย่างนะครับไม่ใช่แต่เรื่องเฟอร์บี้ ผมว่ามันแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนมากกว่า”
“ไมค์” พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล
“จริงๆ ผมไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้เท่าไรครับ คือผมว่ามันแล้วแต่มุมมอง และทัศนคติของแต่ละคนมากกว่าที่จะเลือกชอบอะไร มันไม่มีผิดถูกนะเป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ อีกอย่างผมว่าเป็นเรื่องของกระแส และธุรกิจด้วย เมื่อมีกระแสเฟอร์บี้เกิดขึ้นมาก ธุรกิจก็เกิดตามมาซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ แต่เราต้องยอมรับว่าดาราเป็นตัวช่วยอย่างดีที่ทำให้เฟอร์บี้ได้รับความนิยม ขนาดนี้ครับ คือตัวดาราเองเป็นสื่ออย่างหนึ่งที่ปลุกกระแส หรือเทรนด์ต่างๆ ให้เกิดขึ้น ประชาชนก็ควรเลือกทำตามแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ตัวเองชอบ”
ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์ (หวาย กามิกาเซ่)
“คิดว่าเราทุกคนเข้าใจกันดีอยู่แล้วว่ามันเป็นกระแส เป็นเทรนด์ ที่มาใหม่ เหมือนเราเพิ่งได้ของมาแล้วเราเห่อของใหม่จริงๆ หวายว่าเรื่องนี้มันเป็นแบบนั้นแหละค่ะ คือถ้าเราไม่ได้ชอบ หรืออยากได้จริงๆ ก็ไม่ควรซื้อมาเพราะเห็นว่ามันกำลังเป็นกระแสและทุกคนมีกัน ดาราเองที่เป็นตัวปลุกกระแสนี้ให้เกิดขึ้น คือเมื่อดารามีคนอื่นๆก็อยากมีตามดารามันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมไทย หรือสังคมต่างประเทศ ส่วนตัวหวายมองว่ากระแสเฟอร์บี้มันเป็นอะไรที่น่ารักนะ ไม่อยากให้คนอื่นๆ มองในแง่ร้ายค่ะ อยากให้มองเป็นเรื่องธรรมดา ยิ้มๆ กัน”





ที่มา : http://www.naewna.com/entertain/41830

ราศีกับธาตุทั้ง 4


ราศีกับธาตุทั้ง 4



ไฟ หมายถึง กระตือรือร้นเอาจริงเอาจังแต่แรก แต่แล้วก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นเสียได้
ดิน หมายถึง มีความคิดอ่านดี แนะนำให้ได้ประโยชน์ในการงาน และก็ใช้การได้ด้วย
ลม หมายถึง มีจิตใจ สามารถทำงานจนลุล่วงไปด้วยความสามารถได้ ทั้งการให้คำแนะ
                 นำและกระทำจริง
น้ำ หมายถึง มีอารมณ์จะดำเนินงาน มีอารมณ์คิด อารมณ์ปฏิบัติ จำแนกแยกแยะสิ่งถูกสิ่งผิด
ดังนั้นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็จะกระจายตามราศีต่างๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
ธาตุในราศีเมษ                คือ ธาตุไฟ      ไฟร้อนแรงที่สุด เป็นไฟอันประกอบด้วยลม เช่น ไฟถลุงเหล็ก ทำให้เหล็กอ่อนหรือละลายเป็นน้ำไปเลยก็ได้
ธาตุในราศีพฤษภ             คือ ธาตุดิน      คือดินในที่สูง คือดินแข็งไม่มีน้ำเจือปน
ธาตุในราศีมิถุน                คือ ธาตุลม      ลมที่ร้ายอันจะนำมาซึ่งสิ่งที่เราไม่พึงปรารถนา เช่น ลมปาก ลมนำโรคร้ายมา นำกลิ่นเหม็นมา
ธาตุในราศีกรกฎ               คือ ธาตุน้ำ       คือน้ำที่เขาจัดสรรไว้ เช่นน้ำในขวดในโอ่งในถัง
ธาตุในราศีสิงห์                คือ ธาตุไฟ      ไฟอันเกิดขึ้นโดยฉับพลันทันใด เช่น ฟ้าผ่า หรือไฟฟ้าช็อต หรือจะเรียกว่าไฟปรมาณูก็ได้
ธาตุในราศีกันย์                คือ ธาตุดิน      ดินที่อยู่ริมน้ำชนิดดินเปียกไม่แข็ง ไม่เหลว
ธาตุในราศีตุลย์                คือ ธาตุลม      คือลมธรรมดา ซึ่งพัดไปมาตามปกตินี้เอง
ธาตุในราศีพิจิก                คือ ธาตุน้ำ       คือน้ำที่ขังอยู่โดยธรรมชาติ เช่น น้ำในสระในหนองในบึง
ธาตุในราศีธนู                  คือ ธาตุไฟ      ไฟประกอบกับน้ำคือประสมกับของเหลวนั่นเอง เช่น ไฟตะเกียง ไฟอันทำให้น้ำเดือดร้อนแรง
ธาตุในราศีมังกร               คือ ธาตุดิน      คือดินที่อยู่ใต้น้ำ ไม่แข็ง ไม่เปียก เหลวไปเลย
ธาตุในราศีกุมภ์                คือ ธาตุลม      คือลมที่ร้ายแรง เช่น ลมพายุ อันเป็นความรุนแรง เกินกว่าธรรมชาติมาก เช่น ปะทะเรือๆ ก็ล่ม ปะทะบ้านๆ ก็พัง ปะทะต้นไม้ๆ ก็พังล้ม
ธาตุในราศีมีน                  คือ ธาตุน้ำ       คือน้ำชนิดไหลขึ้นไหลลง ไม่ได้อยู่ตามปกติ ได้แก่น้ำในแม่น้ำลำคลอง

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

12 ราศีกับธาตุทั้ง 4 ในที่ทำงาน

▲ ออฟฟิศธาตุน้ำ ▪ ราศีของผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ ได้แก่ - ราศีมีน (15 มีนาคม ถึง 12 เมษายน) - ราศีกรกฎ (16 กรกฎาคม ถึง 16 สิงหาคม) - ราศีพิจิก (16 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม) ▪ ลักษณะเด่นของที่ทำงาน คือ อ่อนไหว, ใช้อารมณ์เยอะ และมีระบบอุปถัมภ์ค้ำชู ▪ ข้อดี คือ เพื่อนร่วมงานมีน้ำใจ คอยช่วยเหลือ และมีความเข้าอกเข้าใจกันดี การที่แสดงอารมณ์ได้เยอะ ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดไอเดียดี และแปลกใหม่ ▪ ข้อเสีย คือ งานจะไม่เป็นงาน เพราะมีความเกรงใจ คอยแต่กลัวจะทำร้ายจิตใจ โกรธเคืองกันบ้างละ และพอมีข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไขก็ไม่ค่อยกล้าพูดกันตรงๆ คุณธาตุน้ำรู้ไหมว่าถ้ามัวแต่เกรงใจกันแบบนี้ ปล่อยปัญหาไปเรื่อยๆ จนบานปลาย มันก็จะกลายเป็นการทำร้าย เพื่อนร่วมงานเสียมากกว่า นอกจากนี้แล้ว ออฟฟิศแบบนี้ยังมักมีปัญหาอีกอย่างคือ ถ้าเกิดมีคนที่ชอบพูดตรงไปตรงมาหลุดเข้ามาทำงานด้วย ก็มักจะถูกรุมเกลียด เพราะคนธาตุนี้จะมองว่าทำร้ายคนอื่น ถึงแม้จะเป็นเรื่องงานก็ตามที จึงควรละมุนละม่อม พูดจาดีๆ กับเขาหน่อย ▲ ออฟฟิศธาตุลม ▪ ราศีของผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ ได้แก่ - ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์ ถึง 14 มีนาคม) - ราศีเมถุน (15 มิถุนายน ถึง 15 กรกฎาคม) - ราศีตุลย์ (17 ตุลาคม ถึง 15 พฤศจิกายน) ▪ ลักษณะเด่นของที่ทำงาน คือ ทรงภูมิ, มีความคิด และชอบตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ ▪ ข้อดี คือ เป็นการรวมตัวกันของนักคิด ฉลาดหลักแหลม และมีหลักการ ชอบที่ได้ช่วยกันคิดจนได้ไอเดียเจ๋งๆ ออกมา และยังชอบคิดหาแนวทางการทำงานใหม่ๆ เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้น ▪ ข้อเสีย คือ คล้ายๆ กับนักการเมืองนั้นละ ประมาณว่า ถึงจะช่างคิด แต่ไม่ค่อยลงมือทำสักเท่าไหร่ จึงทำให้ผลงานไม่ค่อยสำเร็จเสร็จสิ้นตามที่บอกไว้ และตามกำหนดเวลา ในความที่ชอบอวดรู้ อวดภูมิ ก็เลยเอาแต่นั่งถกเถียงปัญหากันอยู่นั่นละ สุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบ หรือ ตัดสินใจไม่ได้เลยสักอย่าง และออฟฟิศธาตุลม ยังไม่ค่อยใส่ใจในความรู้สึกกันเท่าไหร่ ก็ต้องแยกแยะกันให้ได้ระหว่างเรื่องงาน กับเรื่องส่วนตัว ▲ ออฟฟิศธาตุไฟ ▪ ราศีของผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ ได้แก่ - ราศีเมษ (13 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม) - ราศีสิงห์ (17 สิงหาคม ถึง 16 กันยายน) - ราศีธนู (16 ธันวาคม ถึง 14 มกราคม) ▪ ลักษณะเด่นของที่ทำงาน คือ มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่น และความสร้างสรรค์ ▪ ข้อดี คือ ทุกคนมีความสนุกในการทำงาน มีความกระตือรือร้นที่จะสร้างสรรค์งาน สิ่งใหม่ๆ ออกมา ชอบงานที่ท้าทายมากกว่าทำงานง่ายๆ ซ้ำซาก จำเจ ชอบทำงานสำคัญ และชิ้นใหญ่ และสามารถทำงานเป็นทีมเวิร์กได้ดี เพราะความเป็นคนใจกว้าง และมีความจริงใจ ▪ ข้อเสีย คือ ในความที่ตัวเองมีความกระตือรือร้นมาก ชอบคิดสิ่งต่างๆ ล่วงหน้า จนบางครั้งก็ทำให้กลัวเกินกว่าเหตุ จนทำให้ปัญหาเล็กๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่โตไปได้ ความที่ชอบทำงานสุดเหวี่ยงทุ่มสุดตัว จนบางครั้งอาจทำให้ล้าจนหมดไฟเอาซะงั้น ทั้งๆ ที่งานยังไม่เสร็จ และบางครั้งก็มีไอเดียฟุ่งจัดจนทำให้งานขุ่ย ขาดความละเอียดถี่ถ้วน ไม่รอบคอบ และถ้าต้องทำงานซ้ำๆซากๆ จำเจ หรือ ไม่อยู่ในความสนใจแล้วละก็ คนออฟฟิศนี้จะเบื่อขึ้นมาทันทีเลยละ ต้องคอยระวังให้ดีว่างานจะไม่เสร็จสิ้นตามกำหนดเวลาเอานะครับ ▲ ออฟฟิศธาตุดิน ▪ ราศีของผู้ร่วมงานส่วนใหญ่ ได้แก่ - ราศีมังกร (15 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์) - ราศีพฤษภ (15 พฤษภาคม ถึง 14 มิถุนายน) - ราศีกันย์ (17 กันยายน ถึง 16 ตุลาคม) ▪ ลักษณะเด่นของที่ทำงาน คือ มีการจัดการดีเยี่ยม และเป็นระบบชอบลงมือทำ เชื่อใจได้ ▪ ข้อดี คือ คนกลุ่มนี้เก่งกาจในด้านการจัดการงานให้เสร็จทันตามกำหนดเวลา และตรงตามงบประมาณที่ตั้งไว้ ยืดมั่นในสิ่งที่จับต้องได้ สามารถตรวจสอบได้ และวัดผลได้ ที่สำคัญคือต้องนำมาซึ่งผลประโยชน์และกำไร และทุกคนในกลุ่มนี้ ส่วนมากจะมีความชำนาญในเรื่องการเงิน และก็ยอมทำงานหนักเพื่อเงิน เพื่อรายได้ที่คุ้มค่า ▪ ข้อเสีย คือ การทำงานคนกลุ่มธาตุดินมักจะเป็นไปตามระเบียบวิธีที่วางไว้ตรงเป๊ะ ทำให้ดูจำเจ น่าเบื่อ และถ้าจะให้เปลี่ยนแปลง หรือ เริ่มอะไรใหม่ๆ แล้วละก็ ทำได้ยากสุดๆ เว้นแต่ว่าระบบระเบียบ หรือ อุปกรณ์เดิมที่ใช้อยู่มานั้น เกิดเสื่อมสภาพ เสียจนใช้ไม่ได้แล้วจริงๆ และกว่าจะยอมเปลี่ยนแปลงรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา คนกลุ่มนี้ก็จะต้องแน่ใจในทุกรายละเอียดก่อนว่า มีวิธีการที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลได้อย่างชัดเจนจริงๆ ขอบคุณข้อมูล >>> kapook.com
ดีครับ
ชื่อหนึ่งนะครับ
มาโพสให้แล้วนะ
E-mail : fujisai1102@gmail.com

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หอคอยเอ็นโซล

หอคอยเอ็นโซล ( N Seoul Tower)  หรือ หอคอยกรุงโซล (Seoul Tower) หรือบางครั้งเรียก “นัมซันทาวเวอร์” ( Namsan Tower ) เพราะตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน มีทางขึ้นอยู่ตรงสวนนัมซาน ( Namsan Park ) ซึ่งเป็นหอคอยที่มีความสูงจากฐานประมาณ 236.7 เมตร มีความสูงถึง 480 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ถูกสร้างขึ้นในปี 1969 และเปิดให้เข้าชมเมื่อ ปี 1980 ซึ่ง SEOUL TOWER เป็นหอคอย 1 ใน 18 หอคอยเมืองที่สูงที่สุดในโลก มีทั้งหอคอยดูดาว มีภัตตาคาร ซึ่งแยกเป็น 3 โซน Tower, Plaza, และ Lobby
หอคอย N Seoul Tower ถือได้ว่าเป็น Landmark หรือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของกรุงโซลก็ว่าได้ มึความสวยงามมากในตอนกลางคืน ทำให้เป็นที่สนใจ ของทั้งผู้คนในประเทศเกาหลี และนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาชมทัศนียภาพอันงดงามของกรุงโซลยามค่ำคืน พร้อมยังมีลิฟต์ความเร็วสูงถึงสี่เมตรต่อวินาที เพื่อขึ้นไปยังบนหอคอย ข้างบนมีหน้าต่างกระจก ซึ่งจะจารึกไว้ด้วยชื่อของเมืองใหญ่ทั่วโลกที่อยู่ห่างจากจุดของหน้าต่าง นั้น Ex. " Paris is 8,908.51 km away, Rome is 8,982.44 km far, and New York is 11,061.86 km away from Seoul's tower. " ซึ่งท่านสามารถเห็นสถานที่ท่องเที่ยวจากหอคอยกรุงโซลได้ 360 องศา ( ชมวิวแบบพาโนรามา ) บางสามารถดูแม่น้ำ Han ซึ่งไหลผ่านใจกลางกรุงโซล บางสามารถดูภูเขา Bukhan ที่ล้อมรอบกรุงโซลและเทือกเขาของ Inwangsan ได้เลยทีเดียว
การ ขึ้นหอคอยกรุงโซล มีอยู่ 3 แบบ คือ 1. นั่งกระเช้าไฟฟ้าจากสถานีเนินเขา ตรงสวนนัมซาน / 2. เดินขึ้นเขาจากด้านล่าง ( นิยมมากสำหรับคนเกาหลี ตอนนั่งรถบัสขึ้น ถ้าได้ไปช่วงเย็นๆ ก็จะเห็นคนเกาหลีเดินไปเป็นคู่หนุ่มสาวบ้าง วิ่งออกกำลังกายบ้าง ) / 3. นั่งรถบัส แล้วเดินขึ้นเขาอีกหน่อย เพราะว่าทางรัฐบาลเกาหลี อนุญาติให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สามารถนำรถบัสไปจอดตรงลานจอดรถข้างบนได้ แต่ก็เดินต่อขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ซึ่ง N Seoul Tower นั้น สามารถเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้ากลางวันก็จะเห็นวิวชัดเจน เห็นแม่น้ำฮัน เห็นภูเขาหัวมังกร ที่อยู่ด้านหลัง Blue House ได้ด้วย แต่ถ้าไปตอนเย็นๆหรือตอนกลางคืน ก็อาจมีการโชว์เล็กๆน้อยๆ ของคนเกาหลี และก็จะเห็นเขาเล่นไฟที่ตรงตัวของหอคอย ดั่งรูปข้างบน และเห็นแสง สี ยามค่ำคืนของกรุงโซล แต่ที่พลาดไม่ได้ ตอนที่ขึ้นลิฟท์ไปชมวิว 360 องศาเรียบร้อยแล้ว เดินลงบันไดมา 1 ชั้น ก่อนลงลิฟท์ แวะห้องน้ำหน่อยนะครับ เพราะท่านจะได้ฉี่ไป พร้อมดูวิวแบบโล่งได้ เหมือนได้ยืนฉี่สูงที่สุด ( เฉพาะท่นชายนะครับ ท่านหญิงไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยเข้าไปลอง
จุด ไฮไลท์ ของ N Seoul Tower ที่คู่รักทุกคู่ชาวเกาหลี จะต้องทำอย่างเสียไม่ได้คือ การคล้องกุญแจคู่รัก Love Key Ceremony บนโซลทาวเวอร์ โดยที่จะเขียนข้อความ หรือชื่อของคู่รักไว้บนแม่กุญแจ และก็จะนำแม่กุญแจนี้ไปคล้องกับรั้วเหล็ก ส่วนลูกกุญแจเค้าจะทิ้งไป ด้วยความเชื่อที่ว่าหากคู่รักคู่ใด ได้มาเยือนและคล้องกุญแจคู่รักกันที่นี่ จะทำให้ความรักของทั้งคู่ยืนยาว ไม่พรากจากกันไปตลอดกาล

สิ่งสำคัญในการควบคุมสุขภาพ ธาตุไฟ



ธาตุไฟ มีสิ่งสำคัญในการควบคุมสุขภาพอยู่ 3 อย่าง คือ

                พัทธปิตตะ คือดีในฝัก บางท่านอาจสับสนว่าน้ำดีคือธาตุน้ำ เหตุใดจึงจัดเป็นไฟ ผู้เขียนเข้าใจว่าพัทธปิตตะในที่นี้ คือการควบคุมการทำงานของน้ำดี และการย่อยสลายจากการทำงานของน้ำดี ส่วนน้ำดีจัดเป็นธาตุน้ำ อาการบ่งบอกการทำงานที่ผิดปกติไป จึงน่าจะหมายถึงการปวดท้อง 
น้ำดีอุดตัน ภาวะการผลิตน้ำดีของตับผิดปกติ ตับอักเสบ เกิดอาการตัวเหลือง ตาเหลือง 
เกิดน้ำดีอักเสบเป็นนิ่ว เป็นต้น เป็นเรื่องที่ควบคุมการทำงานของธาตุน้ำเป็นอาการบ่งบอกถึงการทำงานที่ผิดปกติไป จึงน่าจะหมายถึงการปวดท้อง น้ำดีอุดตัน เป็นเรื่องที่ควบคุมการทำงานของน้ำดีในตับ 
และถุงน้ำดีที่เรียกว่าในฝักนั่นเอง

               อพัทธะปิตตะ ดีนอกฝัก หมายถึง การทำงานของน้ำดีในลำไส้ การย่อยอาหาร อาการคือจุกเสียด อืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ดีนอกฝักพิการ จะทำให้เหลืองทั้งตัว ดีในฝักพิการจะมีอาการคุ้มคลั่งเหมือนผีเข้า ถ่ายเป็นสีเขียว

               กำเดา องค์แห่งความร้อน เป็นตัวควบคุมความร้อนในร่างกาย น่าจะหมายถึงศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายนั่นเอง การตรวจสามารถดูที่อาการไข้ว่าตัวร้อนจัดหรือไม่เพียงใด